วันจันทร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2554

ศาสนาคริสต์


ศาสนาคริสต์ (อังกฤษChristianity) หรือที่ราชบัณฑิตยสถานให้เรียกว่า คริสต์ศาสนา[1] เป็นศาสนาแห่งความรัก เพราะพระเจ้าทรงรักมนุษย์ ทรงรักประชากรของพระองค์ ทรงสร้างสัตว์ต่างๆขึ้นมาเพื่อรับใช้ เป็นอาหารแก่มนุษย์ และทรงให้มนุษย์ลงสู่นรกเมื่อไม่ศรัทธาในพระเจ้า ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่นับถือศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและทุกสิ่งทุกอย่างรวมถึงมนุษย์โดยใช้เวลาเพียง 6วัน และหยุดพักในวันที่ เมื่อไม่ถึง 6000ปีก่อน พระเจ้าคือพระยาห์เวห์ (พระบิดา) มีพระเยซูคริสต์เป็นศาสดา ศาสนาคริสต์เชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียวซึ่งดำรงในสามพระบุคคล ในพระลักษณะ"ตรีเอกภาพ" หรือ "ตรีเอกานุภาพ" (Trinity) คือ พระบิดาพระบุตร และพระจิต (พระวิญญาณบริสุทธิ์) มีคัมภีร์คือพระคริสตธรรมคัมภีร์หรือคัมภีร์ไบเบิล (The Bible) ศาสนาคริสต์มีผู้นับถือทั้งหมด 2,100 ล้านคน ถือว่าเป็นศาสนาที่มีจำนวนผู้นับถือมากที่สุดในโลก
ศาสนาคริสต์มีรากฐานมาจากศาสนายูดาห์ (หรือศาสนายิว) โดยมีเนื้อหาและความเชื่อบางส่วนเหมือนกัน โดยเฉพาะคัมภีร์ไบเบิลฮิบรู ที่คริสตศาสนิกชนรู้จักในชื่อพันธสัญญาเดิม (The Old Testament) โดยในพระคริสตธรรมคัมภีร์ 5 เล่มแรกจากทั้งหมด 46 เล่มในภาคพันธสัญญาเดิม ที่เรียกว่าเบญจบรรณ/ปัญจบรรพ (Pentateuch) ได้รับการนับถือเป็นคัมภีร์ของศาสนายูดาห์และศาสนาอิสลามด้วยเช่นกัน โดยในพระธรรมหลายตอนได้พยากรณ์ถึงพระเมสสิยาห์ (Messiah) ที่ชาวคริสต์เชื่อว่าคือพระเยซู เช่น หนังสือประกาศกอิสยาห์ บทที่ 53 เป็นต้น
คริสตชนนั้นมีความเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงพรหมจรรย์ (สาวบริสุทธิ์) โดยฤทธิ์อำนาจของพระเจ้า เพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ที่เชื่อและไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน จะรอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรก แต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จรางวัลแทนในวันสิ้นโลก (Armageddon) และได้เข้าสู่พระราชัยสวรรค์ แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูกปรับโทษหลังความตาย

เนื้อหา

 [ซ่อน]

[แก้]นิกาย

ดูบทความหลักที่ นิกายในศาสนาคริสต์
มนุษย์ได้แบ่งศาสนาคริสต์ให้เป็นนิกายต่างๆ ซึ่งแปรไปตามพื้นที่, วัฒนธรรม และความคิดของตน นิกายที่สำคัญมี 3 นิกายคือ
  • นิกายโรมันคาทอลิกแปลว่าสากล เป็นนิกายดั้งเดิมที่ยึดมั่นในหลักคำสอนของพระเยซูคริสต์เคารพพระนางมารีย์และนักบุญต่างๆ ภายในโบสถ์ของนิกายนี้จะมีรูปเคารพพระเยซูคริสต์ พระแม่มารีย์ และนักบุญต่างๆ มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่นครรัฐวาติกันมีพระสันตะปาปาเป็นประมุข โดยสืบทอดมาตั้งแต่สมัยอัครทูตกลุ่มแรก โดยถือว่านักบุญเปโตรหรือนักบุญปีเตอร์คือพระสันตะปาปาพระองค์แรก ซึ่งได้รับการยินยอมจากพระเจ้าให้ปกครองศาสนจักรทั้งมวลและสืบทอดมาถึงสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 องค์ปัจจุบันเป็นองค์ที่ 265 คาทอลิกจะมีนักบวช เรียกว่าบาทหลวง และผู้อุทิศตนทำงานให้ศาสนจักรถ้าเป็นชายเรียกว่าบราเดอร์ (brother) หญิงเรียกว่าซิสเตอร์ (sister) ชาวไทยจะเรียกผู้นับถือนิกายนี้ว่า "คริสตัง"ตามเสียงอ่านภาษาโปรตุเกสผู้เผยแพร่ยุคแรกๆมีผู้นับถือนิกายนี้ประมาณ 1000 ล้านคน นิกายนี้ถือว่าบาทหลวงเป็นสื่อกลางระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ (ตัวแทนพระเจ้าในโลกนี้)
  • นิกายออร์โธด็อกซ์แปลว่าถูกต้อง นับถือในประเทศทางฝั่งยุโรปตะวันออก เช่น กรีซ รัสเซีย โดยแยกตัวออกไปจากศาสนจักรตะวันตก เพราะไม่อยากอยู่ภายใต้อำนาจของสันตะปาปาซึ่งมีอำนาจมากสูงกว่ากษัตริย์ (คือมีอำนาจแต่งตั้งและถอดถอนกษัตริย์ได้) ในสมัยนั้น โดยที่มิได้เปลี่ยนแปลงข้อความเชื่อ ข้อความเชื่อของนิกายออทอดอกซ์เหมือนกับข้อความเชื่อของนิกายโรมันคาทอลิก มีอัครบิดรเป็นประมุข นิกายออทอดอกซ์ยังมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า คริสตจักร (หรือศาสนจักร) ตะวันออก มีศาสนิกชนรวมกันประมาณ 500 ล้านคน
  • นิกายโปรเตสแตนต์ แยกตัวมาจากนิกายโรมันคาทอลิกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นนิกายที่ถือว่าศรัทธาของแต่ละคนที่มีต่อพระเจ้าสำคัญกว่าพิธีกรรม ซึ่งยังแตกย่อยออกเป็นหลายร้อยคณะ เนื่องจากมีความเห็นแตกต่างเกี่ยวกับพระคัมภีร์ และการปฏิบัติในพิธีกรรม นิกายนี้ไม่มีนักบวชเชื่อว่าทุกคนสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้โดยมิต้องอาศัยบาทหลวงและถือว่าพระเยซูได้ทรงไถ่บาปแก่ศาสนิกทุกคนไปเมื่อถูกตรึงกางเขนแล้ว นิกายนี้มีเพียงไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายแห่งศาสนาเท่านั้น มีผู้นับถือรวมกันทุกนิกายย่อยประมาณ 500 ล้านคน
ชาวไทยจะเรียกผู้นับถือนิกายนี้ว่า "คริสเตียน"ตามกลุ่มมิชชันนารีอเมริกัน ในประเทศไทยมีผู้นับถือนิกายนี้ 4 นิกายย่อย
สำหรับในประเทศไทยศาสนาคริสต์ได้เข้ามาก่อนเมื่อปี พ.ศ. 2052 คือเข้ามาพร้อมกับมิชชั่นนารีในสมัยอยุธยา โดยบาทหลวงคนแรกชื่อบาทหลวงพอล มิชชั่นนารีที่เป็นที่รู้จักคือหมอบรัดเลย์ผู้นำแท่นพิมพ์เข้ามาในประเทศไทยเป็นคนแรก, หมอแมคคอมิคผู้อุทิศตัวแก่ประชาชนในเมืองเชียงใหม่ และตั้งโรงพยาบาลแมคคอมิคในเมืองเชียงใหม่ ในปัจจุบัน คริสตจักรโปรเตสแตนท์ในไทยทั้งหมดมีจำนวนสมาชิกร่วมกันประมาณ หนึ่งแสนคนรวมกับคาทอลิกประมาณ 260,000 (ในปี พ.ศ. 2546) มีคริสตจักรต่างๆ เช่น คริสตจักรใจสมาน, คริสตจักรสามัคคีธรรมกรุงเทพ, คริสตจักรร่มเย็น,คริสตจักรสืบสัมพันธวงศ์, คริสตจักรน้ำพระทัย, คริสตจักรสะพานเหลือง, คริสตจักรไมตรีจิต, คริสตจักรเทียนสั่ง, คริสตจักรอิมมานูเอล,คริสตจักรพระพร เป็นต้น ซึ่งการเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในประเทศไทยสามารถตั้งศูนย์ศาสนาคริสต์ต่างๆในเชียงใหม่ได้ถึง 2000 กว่าศูนย์

[แก้]พิธีกรรมสำคัญในศาสนาคริสต์

พิธีกรรมในศาสนานี้ มีสำคัญๆอยู่ 7 พิธี เรียกว่า พิธีรับศีลศักดิ์สิทธิ์ มีดังนี้
  • ศีลล้างบาปหรือการรับบัพติสมา เป็นพิธีแรกที่คริสตชนต้องรับ โดยบาทหลวงจะใช้น้ำศักดิ์สิทธิ์เทลงบนศีรษะพร้อมเจิมน้ำมันคริสมาที่หน้าผาก
  • ศีลอภัยบาป เป็นการสารภาพบาปกับพระเจ้าโดยผ่านบาทหลวง บาทหลวงจะเป็นผู้ตักเตือนสั่งสอนไม่ให้ทำบาปนั้นอีก และทำการอภัยบาปให้ในนามพระเจ้า
  • ศีลมหาสนิท เป็นพิธีกรรมรับศีลโดยรับขนมปังและเหล้าองุ่นมารับประทาน โดยความเชื่อว่าพระกายและพระโลหิตของพระเยซู
  • ศีลกำลัง เป็นพิธีรับศีลโดยการเจิมหน้าผาก เพื่อยืนยันความเชื่อว่าจะนับถือศาสนาคริสต์ตลอดไปและได้รับพระพรของพระจิตเจ้า ทำให้เข้มแข็งในความเชื่อมากขึ้น
  • ศีลสมรส เป็นพิธีประกอบการแต่งงาน โดยบาทหลวงเป็นพยาน เป็นการแสดงความสัมพันธ์ว่าจะรักกันจนกว่าชีวิตจะหาไม่
  • ศีลบวช สงวนไว้เฉพาะผู้ที่จะบวชเป็นบาทหลวงและเป็นชายเท่านั้น
  • ศีลเจิมคนไข้ เป็นพิธีเจิมคนไข้โดยบาทหลวงจะเจิมน้ำมันลงบนหน้าผากและมือทั้งสองข้างของผู้ป่วย ให้ระลึกว่าพระเจ้าจะอยู่กับตนและให้พลังบรรเทาอาการเจ็บป่วย
สำหรับนิกายโรมันคาทอลิกและนิกายออร์ทอดอกซ์ จะมีพิธีกรรมทั้ง 7 พิธี แต่สำหรับนิกายโปรเตสแตนต์ จะมีเพียง 3 พิธีคือพิธีบัพติสมา , พิธีมหาสนิท และ พิธีสมรสศักดิ์สิทธิ์

[แก้]ศาสนาคริสต์ในประเทศไทย

ปัจจุบันกรมศาสนา ประเทศไทย รับรององค์กรศาสนาคริสต์ 5 องค์กร[ต้องการอ้างอิง] คือ
นอกจากนั้นยังมีคริสตจักรอิสระอีกหลายแห่งในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เช่น คริสตจักรคณะพระกิตติคุณสมบูรณ์, คริสตจักรคณะคริสเตียนสัมพันธ์ (assambly of God) เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น